แบตเตอรี่รถยนต์ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างหนึ่งของรถยนต์ เพราะเป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าและทำให้อุปกรณ์ต่างๆของรถยนต์สามารถทำงานได้ แบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้งานกันทั่วไปมีอยู่ด้วยกันสองแบบ คือ แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก และ แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง ซึ่งแต่ละชนิดมีการดูแลและอายุในการใช้งานที่ไม่เหมือนกันดังต่อไปนี้
แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก รถยนต์ส่วนใหญ่มักจะใช้แบตเตอรี่รถยนต์แบบนี้ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นประเภทย่อยๆได้อีกคือ แบบที่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อยๆ และแบบ Maintenance Free ที่แทบไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเพราะกินน้ำกลั่นน้อยมาก แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียกนี้จะมีอายุในการใช้งานไม่เกินสามปี
แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง ซึ่งเป็นแบบที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเลย ซึ่งเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีราคาค่อนข้างแพง แต่มีอายุการใช้งานที่นานกว่าถึงประมาณ 5-10 ปี
แบตเตอรี่รถยนต์เมื่อใช้งานไปแล้วก็ต้องมีการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่เพื่อช่วยให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่เสมอเพื่อช่วยป้องกันความเสื่อมของแบตเตอรี่ ซึ่งมีข้อแนะนำในการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์คือควรเลือกการชาร์จแบบช้า เพราะจะช่วยลดการเสื่อมของแบตเตอรี่และทำให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น ส่วนการชาร์จเร็วเป็นวิธีที่ร้านเปลี่ยนแบตเตอรี่บางแห่งนิยมทำเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการลูกค้า แต่การชาร์จเร็วจะมีปัญหาเพราะถ้าหากไม่ระมัดระวังในการชาร์จดีพอ แบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็ว อายุการใช้งานสั้นลง และบางครั้งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อรถยนต์และผู้ชาร์จเพราะต้องใช้กระแสไฟฟ้าที่ค่อนข้างสูงในการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์