สวัสดีครับทุกท่านสำหรับวันนี้ผมเองจะมาพูดถึงเรื่องๆ หนึ่งที่ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยเลยครับที่ยังคงสงสัยว่าในการเลือกใช้อุปกรณ์คาร์แคร์ อุปกรณ์ล้างรถ นั้นเราเองควรที่จะเลือกใช้อุปกรณ์ที่ผลิตหรือทำมาจากมืองนอกหรือว่าใช้ของไทยเราดีซึ่งในวันนี้รับรองได้ว่ามีคำตอบมาให้อย่างแน่นอนครับ
จากประสบการณ์ส่วนตัวในการเคยใช้ทั้งอุปกรณ์คาร์แคร์ อุปกรณ์ล้างรถ ทั้งในส่วนที่ผลิตดจากประเทศไทยในบ้านเราและของที่นำเข้ามาจากต่างประเทศผมเองพบว่าโดยรวมนั้นคุณภาพไม่ได้ต่างกันมากมายสักเท่าไหร่ด้วยเพราะว่าสินค้าหรืออุปกรณ์คาร์แคร์ อุปกรณ์ล้างรถที่นำมาขายเหล่านั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ ด้วยกันทั้งสิ้นหากจะมีบ้างก็อาจจะเป็นเฉพาะอุปกรณ์บางชนิดที่ในบ้านเราผลิตไม่ได้หรือผลิตได้ไม่ดีพอจึงต้องตัดสินใจนำเข้ามาขายซึ่งแน่นอนครับว่าถ้าหากเป็นกรณีนั้นแล้วเราเองก็จำเป็นที่จะต้องเลือกใช้ของนอกแต่ถ้าหากว่าเป็นของที่ผลิตในบ้านแล้วมีขายล่ะก็ผมเองอยากให้เลือกใช้ของไทยครับเพราะคุณภาพไม่ต่างกันแถมยังราคาเบากว่าอีกด้วย
สำหรับทัศนะคติในเรื่องของการหาอุปกรณ์คาร์แคร์มาใช้งานสำหรับผมนั้น ผมเองไม่ได้มายด์หรือกังวลหรอกครับว่าจะใช้ของไทยหรือของนอกดีขอให้เป็นของที่สามารถใช้งานได้จริง มีอายุการใช้งานสักหน่อยและราคาของมันสมเหตุสมผลคือไม่แพงหรือถูกจนเกินไปเพียงแค่นี้ก็เพียงพอต่อการหาอุปกรณ์คาร์แคร์ อุปกรณ์ล้างรถ มาใช้งานแล้วครับ
สวัสดีครับทุกท่านถ้าจะให้พูดถึงเรื่องของความสะดวกสบายในการช็อปปิ้ง ซื้อสินค้าแล้วล่ะก็ผมเองเชื่อว่าตอนนี้คงไม่มีอะไรที่สบายไปกว่าการช็อปผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือที่เราเรียกกันว่าช็อปผ่านเน็ตกันอีกแล้วครับเพราะเพียงแค่เปิดคอม เลือกของที่ต้องการเลือกวิธีการส่งและการชำระเงินเพียงแค่นี้ของที่เราต้องการก็จะมาเกยตื้นถึงหน้าบ้านไม่เว้นแม่แต่กระทั่งเจ้าอุปกรณ์คาร์แคร์น้อยใหญ่ทั้งหลายแหล่ที่เราต้องการเขาเองก็มาส่งให้ถึงที่ครับ
แต่อย่างไรก็ดียังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยครับที่ไม่กล้าตัดสินใจที่จะเลือกซื้ออุปกรณ์คาร์แคร์ผ่านทางเน็ตด้วยว่ากลัวว่าเขาจะไม่ส่งบ้างเพราะเป็นของที่ใหญ่และมีน้ำหนัก บ้างก็กลัวว่าจะโดนโกง โดนเชิดเงินหนี จึงมีคำถามตามมาครับว่าเราเองจะไว้ใจเลือกซื้ออุปกรณ์คาร์แคร์ผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้มากน้อยแค่ไหนกัน
สำหรับเรื่องนี้นั้นผมเองไม่กล้าที่จะบอกว่าเราสามารถไว้ใจการซื้อผ่านเน็ตได้ร้อยเปอร์เซนต์หรอกครับด้วยเพราะว่าสินค้าทุกอย่างในอินเตอร์เน็ตนั้นล้วนแล้วแต่มีโอกาสที่จะโดนโกงได้ทั้งสิ้นไม่เว้นแม้แต่กระทั่งอุปกรณ์คาร์แคร์แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่เราเองสามารถทำได้ก็คือการตรวจสอบและคัดสรรเลือกซื้อสินค้ากับร้านค้าทางอินเตอร์เน็ตที่มีประวัติการซื้อขายดีและไว้ใจได้ มีฟีดแบคและรีวิวจากลูกค้ารวมไปถึงเป็นร้านค้าที่ได้รับความนิยมในการสั่งซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตซึ่งถ้าหากเราได้ร้านค้าดังกล่าวแล้วล่ะก็เป็นอันเชื่อขนมกินได้ครับว่าได้รับสินค้าแน่นอน
แบตเตอรี่รถยนต์ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างหนึ่งของรถยนต์ เพราะเป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าและทำให้อุปกรณ์ต่างๆของรถยนต์สามารถทำงานได้ แบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้งานกันทั่วไปมีอยู่ด้วยกันสองแบบ คือ แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก และ แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง ซึ่งแต่ละชนิดมีการดูแลและอายุในการใช้งานที่ไม่เหมือนกันดังต่อไปนี้
แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก รถยนต์ส่วนใหญ่มักจะใช้แบตเตอรี่รถยนต์แบบนี้ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นประเภทย่อยๆได้อีกคือ แบบที่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อยๆ และแบบ Maintenance Free ที่แทบไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเพราะกินน้ำกลั่นน้อยมาก แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียกนี้จะมีอายุในการใช้งานไม่เกินสามปี
แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง ซึ่งเป็นแบบที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเลย ซึ่งเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีราคาค่อนข้างแพง แต่มีอายุการใช้งานที่นานกว่าถึงประมาณ 5-10 ปี
แบตเตอรี่รถยนต์เมื่อใช้งานไปแล้วก็ต้องมีการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่เพื่อช่วยให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่เสมอเพื่อช่วยป้องกันความเสื่อมของแบตเตอรี่ ซึ่งมีข้อแนะนำในการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์คือควรเลือกการชาร์จแบบช้า เพราะจะช่วยลดการเสื่อมของแบตเตอรี่และทำให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น ส่วนการชาร์จเร็วเป็นวิธีที่ร้านเปลี่ยนแบตเตอรี่บางแห่งนิยมทำเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการลูกค้า แต่การชาร์จเร็วจะมีปัญหาเพราะถ้าหากไม่ระมัดระวังในการชาร์จดีพอ แบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็ว อายุการใช้งานสั้นลง และบางครั้งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อรถยนต์และผู้ชาร์จเพราะต้องใช้กระแสไฟฟ้าที่ค่อนข้างสูงในการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์
เมื่อเรามีกล้องติดรถยนต์แล้ว สิ่งที่เรามักจะไม่ค่อยให้ความสนใจเลยก็คือ เมมโมรี่การ์ด เพราะบางคนอาจได้จากแถม โดยไม่ได้สนใจว่าเมมโมรี่การ์ดนั้นจะรองรับกับกล้องติดรถยนต์ของเราหรือไม่ และไม่สนว่าความจุของเมมโมรี่การ์ดจะมีเท่าไหร่ก็ได้เพราะอย่างไรเสียก็บันทึกทับอยู่แล้ว ตรงนี้เป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก
อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่าความจุของเมมโมรี่การ์ดในปัจจุบันมีทั้ง 8 GB, 16 GB, 32 GB 64 GB และ 128 GB ให้เราเลือกซื้อได้ตามต้องการ แต่กล้องติดรถยนต์ส่วนใหญ่นั้นจะรองรับเมมโมรี่การ์ดได้สูงสุดอยู่ที่ 32 GB ซึ่งสามารถบันทึกต่อเนื่องได้นานถึง 7 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความคมชัดของภาพวิดีโอ) และการเลือกซื้อเมมโมรี่การ์ดหากเราต้องการบันทึกแบบ FULL HD ก็ควรเลือกความจุเยอะๆ และเป็นชนิดแบบ Class 6 ขึ้นไป ซึ่งเป็นความเร็วในการเขียนข้อมูลยิ่งมากยิ่งดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกความคมชัดมากเท่าไหร่, ขับรถไปไกลแค่ไหนในแต่ละครั้ง และสิ่งที่สำคัญเลยก็คือกล้องติดรถยนต์ของเรารองรับเมมโมรี่การ์ดแบบไหน หากเราเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ราคาถูก แต่เรากลับเลือกซื้อเมมโมรี่การ์ดดีที่สุดแบบ Class 6 ไปจนถึง Class 10 ก็อาจะทำให้เสียประโยชน์ไปเปล่าๆ เพราะตัวกล้องติดรถยนต์นั้นจะไม่สามารถดึงประสิทธิภาพที่ดีที่สุดออกมาได้ หรือถ้าหากเรามีกล้องติดรถยนต์ที่ความคมชัดสูงมาก แต่กลับเลือกซื้อเมมโมรี่การ์ดแค่แบบ Class 4 เท่านั้น ภาพที่ได้ก็จะเกิดการกระตุก ภาพไม่ชัด เป็นต้น
ถึงแม้ว่ากล้องติดรถยนต์ก็จะทำการบันทึกทับไฟล์เก่าๆ อยู่แล้วทำให้เหมือนกับว่าบันทึกภาพวิดีโอได้อย่างไม่รู้จบ แต่สิ่งสำคัญกว่าก็คือการเลือก Class ของเมมโมรี่การ์ด ให้เหมาะสม เพราะเราจะได้ภาพที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด
บริการสังคม ข้อมูลสินค้าและบริการ